บัญญัติสังฆกรรม
บทความโดย พระวิสัน
ปริมาณ
ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่การเป็นโลกาภิวัตน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ผลักดันให้กลายเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้แบบลักษณะเสรีภาพในระดับปัจเจกชนและเกิดกระแสประชาธิปไตยอย่างรุนแรงปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้เช่นนี้ทำให้หลายประเทศจำเป็นจะต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อ กระแสโลกาภิวัตน์นี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อาทิเช่น การสร้างถนน ประปา เขื่อน ฯลฯ
เพราะอันสภาพสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก
การดำเนินกิจกรรมในที่มีผลกระทบคือการบัญญัติตัวบทกฎเกณฑ์ที่ต้องนำมาใช้ร่วมกันเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมและวัฒนธรรม
บัญญัติสังฆกรรมเป็นสิ่งที่ควรจะกระทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความเป็นระเบียบในคณะสงฆ์เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงสอดคล้องกับ
พุทธบัญญัติ[1] เกิดขึ้นจากการที่มีภิกษุหรือภิกษุณีประพฤติไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม
หรือประพฤติเสียหายขึ้นจนชาวบ้านพากันตำหนิโพนทะนา ทรงรับทราบแล้วจึงให้ประชุมสงฆ์ ไต่สวนได้ความจริงแล้วจึงทรงบัญญัติเป็นข้อห้ามไว้
การบัญญัติพระวินัยของพระพุทธเจ้ามีลักษณะเช่นนี้ทั้งหมด
สาระสำคัญในการบัญญัติกฎเกณฑ์ในการใช้ร่วมกันในหมู่
“พระสงฆ์”[2]จึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการตั้งกฏบัญญัติเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน
ปัญหาสำคัญในการตั้ง 1.บัญญัติ การบัญญัติปลายเหตุโดยไม่คำนึงถึงสภาพการณ์ในปัจจุบัน
เช่นการบัญญัติห้ามพระขับรถ [3]
เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันถึงใช้หลักนิติธรรม(กฏ)
ที่ใช้กับพระสงฆ์ในปัจจุบันจึงกลายเป็นเรื่องบานปลายและพาดพิงถึง
เถระสมาคมถึงการวางมาตรการในการคุ้มครองสิทธิพระสงฆ์ ปัญหาข้อที่ 2. สังฆกรรม การบัญญัติกฎเกณฑ์ต้องไม่เป็นสภาพที่ตรึงจนเกินเหตุ
เป็นสภาพที่สุ่มเสี่ยงในการแบ่งแยก ลัทธิและรวมถึงพระสงฆ์ในปัจจุบันก็ออกมาคัดค้านในกฏบัญญัติตัวนี้แต่นั่นยังไม่เป็นสาระสำคัญเพราะเป็นการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
ผู้เขียนมองเห็นว่าสาระประโยชน์ในการสร้างกฏเกณฑ์ที่สร้างสรรค์นั้นมีอยู่จริงในสภาสังฆปริมณฑลแต่ควรจะนำบัญญัติในสอดคล้องกับหลักความจริงที่ปรากฏในปัจจุบันให้สอดคล้อง
กับสังคมสงฆ์ สังคมของฆราวาส ต้องไม่ขัดต่อหลัก อปริหานิยธรรม ข้อที่ 3
กล่าวว่า ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นไม่ถอนสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้แล้วสมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท
ตามที่พระองค์บัญญัติไว้ เพื่อให้เกิดความสันติภาพ ภารดรภาพ ในคณะสงฆ์สืบไป .
บทความ..บัญญัติสังฆกรรม