รัฐแห่งความสุขรัฐ-แห่งความหวาดกลัว : บทบรรณาธิการประจำวันที่ 23 พ.ย.2555
ประชาชนชาวไทยต่างมีความสุขกันถ้วนหน้าอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อมีข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร
พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555
ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ประชาชนจะได้เฝ้าชมพระบารมีและร่วมใจถวายพระพรชัย
มงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหมือนเมื่อคราวเสด็จออกมหาสมาคม ณ
สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน
2549
ความสุขนี้มีขึ้นท่ามกลางความทุกข์ความกังวล เมื่อเห็นรัฐบาลและหน่วยงานรักษาความมั่นคงพยายามจะสร้างรัฐแห่งความหวาด กลัวขึ้นมา เพราะมีแต่โหมประโคมข่าวการนัดชุมนุมของเครือข่ายองค์การพิทักษ์สยามในวัน ที่ 24 พฤศจิกายน เสมือนหนึ่งขุดภาพของยักษ์มารกำลังผุดขึ้นมาจะกลืนกินประเทศ แทบไม่ผิดเพี้ยนไปจากภาพโฆษณาชวนเชื่อในยุคสงครามเย็น เพียงแค่ต้องการจะล้มการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งยืนกรานมาตลอดว่า เป็นไปอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ ที่ประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยเสรี ปราศจากความรุนแรงใดๆ
ภาพที่ปรากฏจึงมีแต่ภาพของความตื่นตูมหรือการตีตนไปก่อนไข้ ถึงขนาดคณะรัฐมนตรีชุดเล็กได้ลงมติเห็นชอบให้ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักรใน 3 เขต กทม.ได้แก่ เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ระหว่างวันที่ 22-30 พฤศจิกายน ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตอกย้ำภาพกระต่ายตื่นตูม ด้วยการสั่งเคลื่อนกำลังตำรวจที่ปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมทั้ง 112 กองร้อยจากทั่วประเทศ มาตรึงกำลังที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าร่วมชุมนุมเด็ดขาด โดยขู่ว่า หากพ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กมาร่วมชุมนุมจะต้องได้รับโทษ เนื่องจากละเมิดสิทธิเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่ ผู้ปกครองมีหน้าที่ต้องดูแลเด็กให้มีความปลอดภัย
ท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลมีขึ้นขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้อง ขอให้สั่งหยุดม็อบ เนื่องจากยังไม่ปรากฏมูลเหตุว่าจะมีการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตาม วิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเท่ากับยืนยันสิ่งที่นักวิชาการหลายฝ่ายได้เตือน รัฐบาลมาก่อนหน้าว่า กำลังบริหารผิดพลาดซ้ำสองซ้ำสาม นอกจากจะไม่แก้ปัญหาให้ตรงจุดจากกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างกว้างขวาง ทั้งในโครงการรับจำนำข้าว และการบริหารจัดการน้ำ ฯลฯ ยังบริหารมวลชนผิดพลาด โดยใช้มาตรการที่มีแต่ยั่วยุ แทนที่จะใช้วิธีละมุนละม่อม เป็นไปตามลำดับขั้นตอน ซึ่งมีแต่ยิ่งเร่งเร้าปฏิกิริยามวลชนให้ร่วมการชุมนุมมากขึ้น อันอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้
http://www.komchadluek.net/detail/20121123/145477/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A7.html#.UK68uWeleUk บทความคัดลอก
ความสุขนี้มีขึ้นท่ามกลางความทุกข์ความกังวล เมื่อเห็นรัฐบาลและหน่วยงานรักษาความมั่นคงพยายามจะสร้างรัฐแห่งความหวาด กลัวขึ้นมา เพราะมีแต่โหมประโคมข่าวการนัดชุมนุมของเครือข่ายองค์การพิทักษ์สยามในวัน ที่ 24 พฤศจิกายน เสมือนหนึ่งขุดภาพของยักษ์มารกำลังผุดขึ้นมาจะกลืนกินประเทศ แทบไม่ผิดเพี้ยนไปจากภาพโฆษณาชวนเชื่อในยุคสงครามเย็น เพียงแค่ต้องการจะล้มการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งยืนกรานมาตลอดว่า เป็นไปอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ ที่ประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยเสรี ปราศจากความรุนแรงใดๆ
ภาพที่ปรากฏจึงมีแต่ภาพของความตื่นตูมหรือการตีตนไปก่อนไข้ ถึงขนาดคณะรัฐมนตรีชุดเล็กได้ลงมติเห็นชอบให้ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักรใน 3 เขต กทม.ได้แก่ เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ระหว่างวันที่ 22-30 พฤศจิกายน ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตอกย้ำภาพกระต่ายตื่นตูม ด้วยการสั่งเคลื่อนกำลังตำรวจที่ปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมทั้ง 112 กองร้อยจากทั่วประเทศ มาตรึงกำลังที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าร่วมชุมนุมเด็ดขาด โดยขู่ว่า หากพ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กมาร่วมชุมนุมจะต้องได้รับโทษ เนื่องจากละเมิดสิทธิเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่ ผู้ปกครองมีหน้าที่ต้องดูแลเด็กให้มีความปลอดภัย
ท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลมีขึ้นขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้อง ขอให้สั่งหยุดม็อบ เนื่องจากยังไม่ปรากฏมูลเหตุว่าจะมีการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตาม วิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเท่ากับยืนยันสิ่งที่นักวิชาการหลายฝ่ายได้เตือน รัฐบาลมาก่อนหน้าว่า กำลังบริหารผิดพลาดซ้ำสองซ้ำสาม นอกจากจะไม่แก้ปัญหาให้ตรงจุดจากกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างกว้างขวาง ทั้งในโครงการรับจำนำข้าว และการบริหารจัดการน้ำ ฯลฯ ยังบริหารมวลชนผิดพลาด โดยใช้มาตรการที่มีแต่ยั่วยุ แทนที่จะใช้วิธีละมุนละม่อม เป็นไปตามลำดับขั้นตอน ซึ่งมีแต่ยิ่งเร่งเร้าปฏิกิริยามวลชนให้ร่วมการชุมนุมมากขึ้น อันอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้
http://www.komchadluek.net/detail/20121123/145477/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A7.html#.UK68uWeleUk บทความคัดลอก