วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

“ล่วงรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต”
“กุศลวิบาก(บุญ)และอกุศลวิบาก(บาป) จะส่งผลกับใคร เมื่อใด ที่ไหน และอย่างไร”และ โหราศาสตร์รักษาโรคด้วย คำนวนยาเบญจกูลเป็นโหราศาตร์ที่เดียวของโลกที่เป็นโหราศาสตร์แนวพุทธ

(เกษตรโพธิ์เพชร ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์ศรีสุวรรณโคมคำ ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก...ผู้เรียบเรียงตำราคัมภีร์สุวรรณโคมคำ )

เป้าหมาย เพื่อให้บุคคลดำรงชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท

วัตถุประสงค์ ให้รู้ว่าชีวิตเป็นไปตามบุญกรรมอย่างไร

ควรปรับพฤติกรรมอย่างไร จึงจะประสบความสำเร็จได้ในชาตินี้

ระยะเวลา หลักสูตร ๓ เดือน เรียนอาทิตย์ละ ๑ วัน

(สามารถเลือกเรียนเย็นวันธรรมดา และวันเสาร์ – อาทิตย์)

เรียนแล้วจะได้อะไร

- รู้ว่า มีกุศล (บุญ) และอกุศล (บาป) ในเรื่องใดติดตัวมา

- รู้ว่า ควรกระทำพฤติกรรมใด ถึงจะส่งเสริมบุญเดิมที่ได้เคยสั่งสมมา

- รู้ว่า ควรเรียนสาขาใด ทำอาชีพใดจึงจะเหมาะบุญเดิมที่เคยกระทำมา ฯลฯ

- รู้ว่า ควรคบคนเช่นไรถึงจะให้คุณ และเว้นคนที่ให้โทษ ฯลฯ

เรียนควบคู่กับ ปฐวีกสิณ ซึ่งเป็นพื้นฐานของทุกกรรมฐาน จิตสงบเร็ว
แน่นหนัก มั่นคง

“ ปฎิบัติง่าย ได้ผลไว ใช้ประโยชน์จริง ”

เพราะมาเรียน......โหราศาสตร์แนวพุทธ

จึงรู้ ........ บุญ – กรรม ส่งผลต่อตนเองอย่างไร

บทสรุป ....จะเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นไรเพื่อชีวิตที่ดีกว่า



สนใจสอบถามนดีต้อนรับสู่ ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ



33/12 ซอยสาธุประดิษฐ์ 33 ถนนนนทรี
แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
โทร. 02-6812524

ใบสมัครสัตตาภิธรรมเบื้องต้น (สำหรับผู้ใหม่โดยทั่วไป หรือผู้ที่สอบสัตตาภิธรรมเบื้องต้นผ่านแล้ว แต่ต้องการเพิ่มพูนความรู้)
คลิ๊กดาวน์โหลด
ใบสมัครกรรมจักรเบื้องต้น (สำหรับผู้ที่สอบสัตตาภิธรรมเบื้องต้นผ่านแล้วเท่านั้น)
คลิ๊กดาวน์โหลด
ระเบียบการเรียนโหราศาสตร์คัมภีร์สุวรรณโคมคำ
คลิ๊กดาวน์โหลด

ให้นำใบสมัครมาส่งในวันไหว้ครูเท่านั้น พร้อมกับเข้าร่วมพิธีไหว้ พระบรมครูฯ
ในวันพฤหัสบดี เดือน สิงหาคมนี้ 2554  ณ มูลนิธิศรีสุวรรณโคมคำ เวลา ๑๗.๓๐ น.
(หากไม่ร่วมพิธีไหว้พระบรมครูฯ จะไม่ได้สิทธิ์ในการเรียน)


หลักสูตรโหราศาตร์แนวพุทธ (คัมภีร์สุวรรณโคมคำ)


ครั้งที่
เรื่อง

1ประวัติศาสตร์สุวรรณโคมคำ + ดาราวิภาค
2ดาวเคราะห์สัมพันธ์ + สมการพฤติกรรม
3ภูมิทักษา + เสาสิเนรุ
4จุติ + ปฏิสนธิ + ภพทั้ง 21
5ภูมิทักษากำเนิด + เสาสิเนรุ + กุศลวิบากและอกุศลวิบาก
6จุติปกรณ์ + พระพุทธรักษา + ภูมิทักษาหลวง
7ความสัมพันธ์ภพ + วิธีคำนวณกุศลและอกุศล
8ดาวเสวยอายุ + ดาวแทรก,
9ฉัตรสามชั้น + กาลโยค + วิธีคำนวณขึ้นแรม
10สัตตาภิธรรมวัน + ยามใหญ่
11ยามอุบัติการณ์ + นามมงคล
12ยาเบญจกูล + กรรมจักร

เปิดไหว้ครูเรียนโหราศาสตร์ แนวพุทธอีกครั้ง ในเดือน สิงหาคม 2554 นี้ ณ มูลนิธิศรีสุวรรณโคมคำ

ความเป็นมาของคัมภีร์สุวรรณโคมคำ (โดยย่อ)

คัมภีร์โบราณ
สุวรรณโคมคำ เป็นชื่อดินแดนในอดีต มีมาตั้งแต่สมัยพระกกุสันธพุ ทธเจ้า ในสมัยนั้นเรียกว่า “ถ้ำกุมภ์” เป็ นสถานอันพระกกุสันธสัมมาสัมพุ ทธเจ้าเสด็จมาฉันบิณฑบาต และทรงมีพุทธทำนายไว้ว่า พระสัมมาสัมะพุทธเจ้าที่เหลืออี ก ๔ พระองค์ ในอ นาคตจะมาฉันบิณฑบาตที่ถ้ำนี้ เหมือนเช่นกับพระองค์ เพราะเป็นสถานที่ที่จะทรงประดิ ษฐานพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่น คงในอนาคต ภายหลังสถานที่แห่งนี้ ได้มีชื่อว่า เมืองสุวรรณโคมคำ แปลว่า โคมทอง เมืองสุวรรณโคมคำมีอาณา เขตกว้างใหญ่ไพศาล (ดูในตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ) มีอาณาบริเวณสุดลูกหูลูกตา เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา มีพระ พุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมใจครูบาอาจารย์ในสายสุวรรณโคมคำ เล่าสืบมาว่า ท่านผู้มีฤทธิ์ฌานและบรรลุ ธรรมขั้นสูงในพุทธศาสนาได้ รจนาไว้ เพราะเห็นว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมก็จริ ง แต่จะรู้ได้เฉพาะผู้ที่มีบารมี ธรรมและฤทธิ์ฌานแก่กล้า สำหรับปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปไม่ อาจจะรู้ได้ ทำให้ดำเนินชีวิตด้ วยความประมาท อย่างไม่รู้โลก ด้วยเหตุนี้ ท่านเหล่านั้นจึงได้รจนาคัมภีร์ สุวรรณโคมคำขึ้น เพื่อใช้คำนวณบุญกรรมให้เห็นเป็ นรูปธรรม คัมภีร์สุวรรณโคมคำจึงถืออุบั ติขึ้นแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และเพราะเหตุว่า คัมภีร์นี้เกิดขึ้นในแผ่นดินสุ วรรณโคมคำ บูรพาจารย์สุวรรณโคมคำจึงได้ เรียกขานคัมภีร์นี้ว่า “คัมภีร์สุวรรณโคมคำ” หรือเรียกอีกชื่อว่า "คัมภีร์มหาจักรพรรดิราช"

คัมภีร์นี้แสดงสูตรคำนวณบุ ญบาปที่ให้ผลตามกาลเวลาไว้ และยังรวมเอาศาสตร์อื่น ๆ ที่มีหลักการเดียวกันผนวกไว้อย่ างครอบคลุม รวมทั้งหมด ๑๖ ส่วน ได้แก่

๑. ลคฺนา ว่าด้วย สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ รูปร่าง บุคลิก

๒. โหรา ว่าด้วย ความเจริญ ความเสื่อม ฐานะ

๓. ตรียางฺค ว่าด้วยความสุข ทุกข์ทั้งหลาย

๔. จตุรทฺสํส ว่าด้วย ความรุ่งโรจน์สูงสุด

๕. ตมสํส ว่าด้วย อนาคตอันใกล้ (แบ่งออกเป็น ๗ ปกรณ์)

๖. นวางฺค ว่าด้วย อุบัติกาลคู่

๗. ทสมสํส ว่าด้วย ตำแหน่ง อำนาจ อิทธิพล บารมี (แบ่งออกเป็น ๑๐ ปกรณ์)

๘. ทวาทสํส ว่าด้วย ผู้อุปถัมภ์ บุพพการี วงศ์สกุล (แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์)

๙. โสทสํส ว่าด้วย ทรัพย์อันเป็นมรดก ดินแดน การยึดครอง

๑๐ วิมสํส ว่าด้วย กรรมเก่า ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์)

๑๑. จตุรวมสํส ว่าด้วยความสำเร็จในการศึกษาวิ ทยาการ (แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์)

๑๒. ภงฺส ว่าด้วยธาตุ ปราณ และสมุนไพร (แบ่งออกเป็น ๒๗ ปกรณ์)

๑๓. ตริมสํส ว่าด้วยข้าศึก ศัตรู อุบาทว์ และอุปสรรค (แบ่งออกเป็น ๓๐ ปกรณ์)

๑๔. อคฺคเวทสํส ว่าด้วยพฤติแห่งอาชีวะ (แบ่งออกเป็น ๑๕ ปกรณ์)

๑๕. ขวทสํส ว่าด้วยการห้ามฤกษ์ และวางฤกษ์ตามกลุ่มนักษัตร

๑๖. ฉฎฺฐองฺส ว่าด้วยอรรถย่อยทั้งหลาย

ทั้ง ๑๖ ส่วนนี้ รวมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “โสฬส” เป็นการแบ่งวิชาเท่ากับจำนวนส่ วนทั้ง ๑๖ ของดวงจันทร์ตามคัมภีร์สุ วรรณโคมคำนั้นเอง ผู้เรียนเจนจบครบสูตรทั้งหมดนี้ เรียกว่า “สำเร็จโสฬส” กลายเป็นยอดคนครบถ้วนกระบวนยุ ทธ์ คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้สืบต่ อเรื่อยมารุ่นแล้วรุ่นเล่ าโดยเหล่าศิษย์ผู้ได้รับการถ่ ายทอดด้วยศักดานุภาพของคัมภีร์ที่ มากล้นนี้ ล้วนเป็นที่หมายปองของผู้ แสวงหาวิชายิ่งนัก (คล้าย ๆ คัมภีร์กลยุทธ์ซุ่นจื่อ ที่ได้รับการสืบทอดโดยซุนปิง) ถึงกับยกทัพจับศึกแย่งชิงตามที่ ปรากฏในประวัติศาสตร์ คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้ผ่านกาลสมัยมาช้านาน ต่อมาคัมภีร์นี้ได้ตกทอดมาถึง " สมเด็จพระมหาเถรศรีศรั ทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลงกาที ปมหาสวามี" นามเดิม คือ พระศรีศรัทธา เป็นโอรสของกมรเตงอัญรามคำแหง ประสูติ ณ เมืองสองแคว (พิษณุโลก) เมื่อเจริญชันษาได้ศึกษาศิ ลปวิทยา และเจนจบคัมภีร์มหาจักรพรรดิราช หรือคัมภีร์สุวรรณโคมคำ สำเร็จโสฬสแต่ครั้งเยาว์วัย นอกจากนี้ ยังทรงเชี่ยวชาญในวิชาคชศาสตร์ และอัศวศาสตร์ (อันหนึ่งร้คุณช้าง อันหนึ่งรู้คุณม้า อันหนึ่งรู้คุณสีหะ จารึกวัดศรีชุมว่างั้น) ในช่วงวัยหนุ่ม พระศรีศรัทธาได้สู้รบกับขุนต่ าง ๆ มากมาย จนสุดท้าย ได้ทำยุทธหัตถีกับขุนจัง แทนพ่อขุนรามคำแหง ได้รับชัยชนะอย่างสง่างาม ต่อมาพระศรีศรัทธาเห็นภั ยในการครองเรือน ได้ทิ้งอาวุธ นำทรัพย์สมบัติออกบริจาคทาน และได้ยกพระธิดา และพระชายาให้แก่ผู้ที่มาขอ ได้เจริญรอยตามพระเวสสันดรโพธิ สัตว์ เสด็จผนวชบวชเป็นพระภิกษุในพุ ทธศาสนา ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาได้ จาริกไปแสวงบุญที่เกาะลังกา หลังจากที่กลับจากการแสวงบุญที่ เกาะลังกา ด้วยสมเด็จพระธรรมราชาลิไทย ตรัสให้บัณฑิตไปอาราธนานิมนต์ กลับสู่กรุงสุโขทัยแล้ว ครูบาอาจารย์สายสุวรรณโคมคำ เล่าสืบมาว่า "สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ได้ผนวกเนื้อหาของพระอภิธรรมเข้ าไว้ในคัมภีร์สุวรรณโคมคำ (ซึ่งท่านชำนาญอยู่แล้ว) จนครบสมบูรณ์ ซึ่งแต่เดิมนั้น คัมภีร์สุวรรณโคมคำมีเนื้ อหาธรรมะครบถ้วนอยู่แล้ว แต่ด้วยผ่านกาลเวลามาช้านาน ทำให้หลักธรรมกร่อนไปเป็นอั นมาก เหลือเพียงหลักการคำนวณ และคำพยากรณ์เท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่ศึกษาวิชาในคัมภีร์สุ วรรณโคมคำ เพื่อให้สำเร็จในขั้นสูง จำเป็นต้องศึกษาธรรมะ และฝึกกสิณสมาธิควบคู่ไปด้วย" เมื่อบั้นปลายชีวิตของสมเด็ จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้ านเกิด คือ วัดจุฬามณี จนกระทั่ง ละสังขารลาจากโลกนี้ไป รวมอายุได้ประมาณ ๘๓ ปีเชื่อกันว่า แม้พญาลิไทก็ได้รับการถ่ ายทอดคัมภีร์นี้จากสมเด็ จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ด้วยเช่นกัน ต่อมาในสมัยหลัง คัมภีร์นี้ตกทอดมาจนถึงสมเด็ จพระนเรศวรมหาราช คงประกอบด้วยเหตุนี้ พระองค์ท่านจึงปรีชาสามารถกอบกู ้เอกราชได้สำเร็จภายในเวลาอันสั ้น และก่อนสวรรคต โปรดให้คนนำคัมภีร์สุ วรรณโคมคำไปคืนไว้ที่เมืองสุ วรรณโคมคำเดิม (ประเทศลาว)

หมายเหตุ: ประวัติของสมเด็จพระมหาเถรศรี ศรัทธา ดูในศิลาจารึกวัดศรีชุมหลักที่ 2 ประกอบ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)
ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

พระวิสัน (พธบ./รปม)

รูปแบบ การวิจัย โดย ผศ.(พิเศษ) นภดล สุชาติ พ.บ M.P.H

อ้างอิงจาก http://www.slideshare.net/guest9e1b8/9-presentation-948269

South East Asia University

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ตัวแบบนโยบายสาธารณะสมัยใหม่

กิจกรรมดูงานเชื่อมสายสัมพันธ์ MPA12and MPA13

Download

เสียงปลง

Nonstop - I'm The Sexy Girl - DJ Back Up