วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554




จากเหตุการณ์อุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อราว 100 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์อันน่าสยดสยองในครั้งนั้น ทำให้กลุ่มสัตว์บกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในยุค จูแรคสิค เกิดการล้มตายจนสูญพันธุ์พร้อมๆกันอย่างกะทันหันจำนวนมากมาย


แต่ความมหัศจรรย์ของจักรวาลตาม ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณอย่างพระไตรปิฎก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อว่าในบันทึกเมื่อกว่า 2,500 ปีที่แล้ว มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเพิ่งจะค้นพบ ดังเช่น  การอธิบายถึงจักรวาล ว่ามีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางนั้น ความจริงมันมีอยู่หลายหมื่นหลายแสนจักรวาลจนประมาณจำนวนมิได้
และ รูปร่างของสากลจักรวาลเหล่านี้จะมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ที่จะเปลี่ยนแปลงขยับขยาย เคลื่อนไปเคลื่อนมา แต่การที่ดูเสมือนหนึ่งว่ามันเคลื่อนตัวยุบๆขยายๆนั้น ความจริงมันคือการระเบิด หลังจากนั้นก็จะไปก่อตัวขึ้นมาใหม่ วนเวียนๆอย่างนี้ ซึ่งลักษณะที่ว่านี้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเรียกมันว่า Big bang และ ในพระไตรปิฎกอีกนั่นแหละที่ยังอธิบายลึกลงไปอีกว่า ความจริงแล้วในแต่ละจักรวาลนั้นจะมีอายุที่ยืนยาวมากจนไม่อาจที่จะรู้ได้ เพราะมันจะมีการดับและระเบิดไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเรียกสิ่งนี้ว่า พหุจักรวาล โดยการระเบิดในแต่ละครั้ง ย่อมเกิดสะเก็ดจากการระเบิดอย่างมากมาย ซึ่งเป็นไปได้เป็นอย่างมากที่สะเก็ดเหล่านั้น แรงของการกระเด็นได้ผ่านเข้ามาในระยะแรงดึงดูดของโลก จนเกิดอภิมหาโศกมหานาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่

ในครั้งนั้น ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะตอบได้ว่า สิ่งมีชีวิตเพียงไม่กี่ชนิดได้หลุดเล็ดรอดจากความตามหายนะมาได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆในบันทึกโบราณอย่างเช่น พระไตรปิฎก ได้บันทึกคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า ไว้อย่างน่าสะพรึงกลัวว่า
เหตุที่คล้ายๆกับการเกิดขึ้นในครั้งนั้น มันจะกลับมาเกิดขึ้นอีกรอบ ในปี พศ.5000 แต่จะแตกต่างกันก็เพียง มันมิได้เกิดขึ้นจากภายนอกโลก แต่มันจะเกิดขึ้นจากมนุษย์ภายในโลกที่สร้างความหายนะเหล่านี้ขึ้นมาเอง

สภาพ ทั่บนทึกไว้ในคัมภีร์โบราณฉบับนี้ได้บรรยายถึงสภาพอันน่าสะพรึงกลัวเป็น อย่างยิ่ง ของอภิมหาภัยวิบัติในครั้งหน้า กล่าวคือ ก่อนการเกิดมหาภัยวิบัติครั้งใหญ่คราวหน้า 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวลงให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือละลาย ยังจะนำไปสู่เกลียวคลื่นยักษ์ที่จะเข้าถาโถมสู่แผ่นดิน แล้วปัจจุบันก็ดูเหมือนว่ามันเริ่มก่อตัวให้เราได้เห็นกันบ้างแล้ว โดยมันจะเกิดติดต่อกันยาวนานถึง 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม พฤศจิกายน จะเกิดฝนตกครั้งใหญ่ไปทั่วโลก เป็นเวลา 7 วัน แต่ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน ผลของมันจะทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ พายุถล่ม แผ่นดินแยกและไหวอย่างสั่นสะเทือนเรือนลั่นไปทั่วทั้งโลก ภูเขา ไฟจะระเบิดด้วยเสียงอันดังสนั่นกึกก้อง พร้อมๆไปกับการถาโถมของคลื่นยักษ์จากทะเล ผู้ที่พอจะรอดจากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่ว่านี้ ก็จะต้องทนทุกข์ทรมานกับการเกิดของโรคระบาดจนยากที่จะเยียวยา มันคือ อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อจะตายภายใน 6 วันทันที คลื่นเสียงที่รุนแรงกึกก้อง จนทำให้ประตูมิติทั้ง 3 เปิดออกทะลุเข้าหากัน สิ่งมีชีวิตจะเกิดความอดอยากขาดแคลนอาหารอย่างแสนทรมาน

แต่ สิ่งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ กลับอยู่ที่ว่า ในการที่จะผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้นั้น ในพระไตรปิฎกฉบับนี้ นอกจากการเตือนให้ เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6 เดือน เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกชนิดจับขั้วหัวใจ เครื่องใช้ที่จำเป็น ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดจนห้ามการกินอาหารที่ได้มาก่อนจะล้างด้วยด่างทับทิม เพราะ จะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสีปนเปื้อน ส่วนโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษาจะต้องทาด้วยคาราไมล์ซึ่งจะทำ หายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ เครื่องช่วยชีวิต แสงสว่างเช่น เทียน ตะเกียงพายุ เพราะเวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก การเตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

 
ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม ฝึกการกินให้น้อย ถ่ายให้น้อย ระวังอากาศที่หนาวเย็น ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษเช่น งูพิษ จระเข้ ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง แต่สิ่งสำคัญที่ควรต้องทำในช่วงเวลาวิกฤติตอนนั้นก็คือ การเตรียมจิตวิญญาณ ชำระกรรมให้เบาบางโดยต้องหยุดความโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน เพราะ วันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากเสียงที่ดังอันกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้ แตก ดังนั้น ต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก มีสำนึกทางจิตวิญญาณ ฝึกการละวาง มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้พ้นจากภัยอันตราย ด้วยการ ถือศีล

ความจริงสัตว์ต่างๆรู้จักการถือศีลมานมนานเท่าไหร่ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ที่พอจะมีปรากฏบ้างในพระไตรปิฎก  ที่กล่าวไว้ถึงจิตบางดวงที่เวียนว่ายตายเกิด และผ่านการถือศีลติดต่อกันมายาวนานถึงหลายๆหมื่นปี ดังเช่น พระศรีสุทโธ แต่ใน
สัตว์ที่ถือศีล หรือจำศีลที่เราคุ้นเคยก็อย่างเช่น กบ หนูบางชนิด หมี สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ  เช่น  กบ และหอยบางจำพวก ที่ไกลตัวออกไปหน่อยก็เช่น ค้างคาวในซีกโลกเหนือ ปลาปอดแห่งออสเตรเลียจะนอนหมกโคลนในช่วงฤดูแล้งจัดๆ และจะตื่นขึ้นมาเมื่อฝนฤดูใหม่โรยริน โดยในระหว่างการจำศีลนี้หัวใจของมันจะเต้นช้ามาก และการหายใจก็จะช้าลง จนเซลล์เกือบจะหยุดการทำงาน สัตว์เลื้อยคลานอีกชนิดหนึ่งที่รู้จักการจำศีล เพื่อเอาตัวรอดนั่นก็คือ งู และมันเป็นไปได้หรือไม่ว่า งูนั้นคงจะรู้จักการถือศีลมาตั้งแต่ยุคจูแรคสิค และมันอาจจะรู้อีกด้วยซ้ำว่า การที่จะรอดให้พ้นจากมหาวิกฤติครั้งหน้าก็คือการที่จะต้องถือศีลตามคำ พยากรณ์ใน พุทธทำนาย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)
ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

พระวิสัน (พธบ./รปม)

รูปแบบ การวิจัย โดย ผศ.(พิเศษ) นภดล สุชาติ พ.บ M.P.H

อ้างอิงจาก http://www.slideshare.net/guest9e1b8/9-presentation-948269

South East Asia University

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ตัวแบบนโยบายสาธารณะสมัยใหม่

กิจกรรมดูงานเชื่อมสายสัมพันธ์ MPA12and MPA13

Download

เสียงปลง

Nonstop - I'm The Sexy Girl - DJ Back Up