วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

งู...จร้า

ตอนที่ 1 งู


งู (Snake)

งูเป็น
สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ที่ไม่มีเปลือกตา ไม่มีหู แต่ที่พิเศษคือมันจะมีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้สำหรับรับความรู้สึกจากกลิ่น โดยทั่วไปแล้วงูจะมีนิสัยขี้กลัวและจะไม่กัด นอกเสียจากว่ามันรู้สึกว่ากำลังถูกรบกวน หรือถูกบุกรุกจากสิ่งที่มันเชื่อว่าเป็นศัตรูเท่านั้น ดังนั้นธรรมชาติ นิสัยของมันจึงมักจะเลื้อยเพื่อหลบหนีหาที่ซุกซ่อน เมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้ามาใกล้ในรัศมีที่มันคิดว่าไม่ปลอดภัย และมันจะออกล่าเหยื่อ เมื่อท้องของมันรู้สึกหิวเท่านั้น อาหารโปรดของมันก็คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กๆ แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นสำหรับงูบางชนิดที่ชอบกินเนื้อของพวกเดียวกันเอง เช่นงูจงอาง
โดยทั่วไปแล้วงูจะออกลูกเป็นไข่ แต่ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้นอีกนั่งแหละ เพราะว่ายังมีงูพิษบางชนิดที่จะออกลูกเป็นตัว เช่นงูแมวเซา ซึ่ง โดยทั่วไปแล้ว งูจะทำการลอกคราบบ่อยครั้งมากเมื่ออายุยังน้อยๆ เพื่อขยายลำตัว ซึ่งหลังจากการลอกคราบแล้ว นอกจากจะทำให้มันมีเกล็ดที่มีสีสันสดใสขึ้น การลอกคราบยังช่วยทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีก ด้วย

ใน
ประเทศไทยของเรานั้น นอกจากลักษณะภูมิประเทศแล้ว ยังมีภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของงูประเภทต่างๆเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจึงมีงูกระจัดกระจายอาศัยอยู่ถึงกว่า 180 ชนิด ที่อาศัยอยู่ในดินแดนอันแสนสุขแห่งนี้ แต่ ในจำนวนนี้จะมีเพียง 24 ชนิดเท่านั้นที่เป็นงูพิษซึ่งอาศัยอยู่บนบก และจะมีเพียง 22 ชนิดเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยพิษของมันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ พิษที่มีผลต่อระบบประสาท และพิษที่มีผลต่อระบบเลือด

งูจะสามารถมองเห็นได้ดีทั้งในที่มืดและในที่มีแสงสว่างในเวลากลางวัน โดยมันถูกจัดให้เป็น
สัตว์ที่อยู่ในตระกูลสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังกลุ่มแรกๆของโลกที่มีการดำรงชีวิตบนบก สิ่ง ที่เหลือเชื่อคือ มันเป็นสัตว์เลื้อยคลานเพียงไม่กี่ชนิด ที่หลุดรอดชีวิตจากการสูญพันธุ์และยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นปรกติ สุขมาจนถึงปัจจุบัน จากเหตุการณ์หินอุกกาบาตพุ่งชนโลกมา มากกว่า 100 ล้านปีที่แล้ว เราจึงยกย่องว่ามันเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ประสบความสำเร็จในการปรับสภาพร่าง กายในการเอาตัวรอด เพราะเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองในครั้งนั้น ทำให้กลุ่มสัตว์บกประเภทอื่นๆที่อาศัยอยู่ในช่วง ยุคจูแรคสิค ได้ล้มตายและสูญพันธุ์กันอย่างกะทันหันจำนวนมากมายนับชนิดไม่ถ้วน

เมื่อปี 2550 นักวิทยาศาสตร์ต่างสยดสยองพองขน เมื่อพวกเขาได้ค้นพบซากฟอสซิลของ "อภิมหางูยักษ์" ใน
บริเวณเหมืองถ่านหินบริเวณประเทศโคลัมเบีย ซึ่งพวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา และคาดว่ามันเป็นงูสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยพวกมันได้อาศัยอยู่บนโลกใบนี้เมื่อราวๆ 60 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งการพบในครั้งนี้พวกเขาได้พบแกนกระดูกสันหลังทั้งหมดประมาณ 180 ชิ้น คาดว่าน่าจะเป็นของฝูงอภิมหางูยักษ์ราว 12 ตัว ซึ่งเจ้าอภิมหางูยักษ์แต่ละตัวนั้น น่าจะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 ตัน ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของช้างราว 3 ตัว โดยมีความยาวราวๆ 13 เมตร โดยหากมันโตเต็มที่ก็น่าจะยาวได้ถึง15 เมตรเลยทีเดียว

นักบรรพชีวินวิทยาได้ตั้งชื่อ อภิมหางูยักษ์ ชนิดนี้ว่า "
ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส" (Titanoboa cerrejonensis) โดยพวกกล่าวว่า อภิมหางูยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่แสนน่าสะพรึงกลัวฝูงนี้ อยู่ในยุคที่เรียกว่า พาลีโอซีน (Palaeocene) ซึ่งเป็นยุคที่มีสภาพภูมิอากาศเป็นป่าดิบเขตร้อน โดยอภิมหางูยักษ์ฝูงนี้ มีความใกล้ชิดกับงูเหลือมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้น่าจะมีอุปนิสัยคล้ายคลึงกับงูอนาคอนดามากกว่า นั่นก็คือชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ แต่ทั้งนี้ก็สามารถเลื้อยคลานบนบกได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)
ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

พระวิสัน (พธบ./รปม)

รูปแบบ การวิจัย โดย ผศ.(พิเศษ) นภดล สุชาติ พ.บ M.P.H

อ้างอิงจาก http://www.slideshare.net/guest9e1b8/9-presentation-948269

South East Asia University

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ตัวแบบนโยบายสาธารณะสมัยใหม่

กิจกรรมดูงานเชื่อมสายสัมพันธ์ MPA12and MPA13

Download

เสียงปลง

Nonstop - I'm The Sexy Girl - DJ Back Up