วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ตอนที่ 4 พญานาคกับพุทธศาสนา


หลัง จากการเราได้พบซากมนุษย์โบราณที่มีอายุเกือบห้าพันปีบนยอดภูเขาน้ำแข็ง พร้อมกับผิวหนังที่มีลอยสัก สิ่งหนึ่งที่มันสามารถบอกเราได้ว่าก็คือ ในอดีตคนยุโรปก็มีความเชื่อเรื่องของจิตวิญญาณ คนยุโรปเดิมก็เชื่อในจิตวิญญาณที่มีอยู่ในต้นไม้ ก้อนหิน ในป่า ในแม่น้ำ และเป็นพื้นฐานให้คนเคารพธรรมชาติ แต่มัน สูญหายไปเมื่อคราวที่คริสต์ศาสนากำเนิดขึ้นมา เพราะความเชื่อแบบคริสต์เป็นความเชื่อแบบเทวนิยม ชาวคริสต์ส่วนใหญ่จึงไม่มีพื้นที่พอ ที่จะแบ่งใจไปให้กับเทวะ หรือภูติผีอื่นๆ เรื่องของจิตวิญญาณจึงไม่ได้จำกัดเฉพาะในพุทธศาสนาอย่างที่ใครบางคนเข้าใจ

เรื่อง ราวที่ดูเหมือนจะเลยประสาทสัมผัสจนดูเหมือนกับว่ามันไม่ใช่ของที่มีอยู่จริง ในธรรมชาติ ดั่งเช่นในเรื่องของพญานาคา แต่ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่พุทธศาสนาเคยกล่าวถึง แต่กว่าวิทยาศาสตร์จะพัฒนาเครื่องมือจนพบก็ต้องกินเวลาถึงมากกว่าสองพันปี เช่น เรื่องที่เล็กและใกล้ตัวมากที่สุดอย่างเรื่องราวของอนุปรมาณู ที่พุทธศาสนาอธิบายมาก่อนวิทยาศาสตร์ใหม่ว่ามันเป็นสิ่งที่เล็กกว่าอะตอม หรือเรื่องยิ่งใหญ่และไกลตัวมาก อย่างลักษณะการระเบิดตัวในจักรวาลที่มีรูปร่างคล้ายฟองน้ำ ที่ปัจจุบันวิทยาศาสตร์เพิ่งจะรู้จักสิ่งนี้ว่า บิ๊กแบง ดังนั้นการจะกล่าวว่าเรื่องพญานาคที่มีบันทึกอยู่ในพุทธศาสนานั้นเป็นเรื่อง ที่โคมลอยขาดหลักฐาน ซึ่งน่าจะกล่าวแบบยอมรับว่า ความรู้ความก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์ใหม่ยังก้าวไปไม่ถึงจึงน่าจะสมเหตุสมผล มากกว่า

พุทธศาสนากล่าว่า พญานาคาหรือนาคราช นั้น มีมาตั้งแต่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าแล้ว โดยในพุทธศาสนาจะหมายถึงแต่ในส่วนที่เป็นกายทิพย์ของงู ซึ่งจัดอยู่ในพวกเดรัจฉานภูมิ ซึ่งพระพุทธเจ้าเองก็ยอมรับว่าในอดีต พระองค์ก็เคยเกิดเป็นพญานาค โดยในชาติที่เกิดเป็นพญานาคในครั้งอดีตนั้นชื่อว่า ภูริทัตต์ ซึ่งได้ขึ้นมาบำเพ็ญศีลบนฝั่งแม่น้ำยมุนา
แล้วถูกหมองูชื่อ อาลัมพายน์ จับเอาตัวไป

ในชาติสุดท้ายที่พระพุทธองค์เกิดเป็นมนุษย์แต่ยังไม่ได้ตรัสรู้ พระองค์ทรงลอยถาดทอง
ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ซึ่งในครั้งนั้นถาดทองที่พระองค์ทรงลอยเสี่ยงทายนั้นได้จมลงไปสู่เมืองของพญานาคที่ชื่อ ภุชคินทร์ เมื่อถาดทองจมลึกลงไปสู่ก้นแม่น้ำ ถาดของพระองค์ได้ไปกระทบถาดของพระพุทะเจ้าองค์ก่อนๆจนเกิดเสียงดังกิ๊ก จึงทำให้พญานาคภุชคินทร์ ที่ปรกติจะนอนหลับตื่นขึ้น

อีกครั้งหนึ่งคือ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า ได้ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่ภายใต้ต้นจิกบริเวณริมสระน้ำ ซึ่ง ขณะนั้นพระองค์เพิ่งจะตรัสรู้ได้เพียง 45 วันเท่านั้น แล้วจู่ๆได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันถึง 7 วัน 7 คืนอย่างไม่ยอมหยุด ในครั้งนั้นได้มีพญานาคที่ชื่อ มุจลินทร์ เลื้อยขึ้นมาจากสระน้ำ และได้แผ่พังพานประกอบกับขดตัวรอบพระวรกายของพระพุทธเจ้าเอาไว้ เพื่อปกคลุมพระวรกายของพระพุทธองค์ไม่ให้โดนฝนอันหนาวเหน็บ

หลังจากนั้นอีกหลายปี เมื่อพระพุทธเจ้าต้องเสด็จไปเทวโลกพร้อมด้วยพระอรหันต์ที่ติดตามอีกจำนวน 500 รูป ซึ่งการเดินทางในครั้งนั้น พระองค์ต้องผ่านวิมานพญานาค ที่กำลังมีการรื่นเริงกันอย่างสนุกสนาน โดยมี นันโทปนันทนาคราช เป็นผู้ปกครองดูแลเหล่าพญานาค เมื่อเห็นคณะสงฆ์เดินทางผ่านไปเหนือวิมานของตนจึงเกิดความโกรธ โดยได้ตรงไปยังเขาพระสุเมรุ แล้วแปลงของตนให้กลายเป็นพญานาคขนาดใหญ่ พันโอบรอบเขาพระสุเมรุเอาไว้ถึง 7 รอบ มิหน่ำซ้ำยังได้แผ่พังพานเพื่อบดบังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เอาไว้อีกด้วย เจตนานั้นก็เพื่อไม่ให้พระพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ผ่านไปได้ จนพระโมคคัลลานะ ผู้ซึ่งตามเสด็จไปในครั้งนั้นด้วย อาสาที่จะปราบพญานาคที่มีมิจฉาทิฐิอย่างนันโทปนันทนาคราชตนนี้ โดยพระโมคคัลลานะได้แปลงกายเป็นพญานาคราชที่มีขนาดใหญ่กว่าถึงเท่าตัว แล้วพันรัดตรึงร่างของนันโทปะนันทะนาคราช เอาไว้ถึง 14 รอบ อันเป็นการเพิ่มความโกระให้กับนันโทปะนันทะนาคราชเป็นอย่างยิ่ง จึงบันดาลให้เกิดไฟลุกขึ้น แต่พระโมคคัลลานะ ก็บันดาลให้เกิดเปลวไฟลุกขึ้นเช่นกัน

นันโทปะนันทะนาคราชตระหนักดีว่า วิธีนี้คงจะสู้พระโมคคัลลานะไม่ไหว จึงถามออกไปว่า " ท่านเป็นใคร"

พระโมคคัลลานะจึงตอบว่า "เราคือโมคคัลลานะ ศิษย์ของตถาคต"

แล้ว นันโทปะนันทะนาคราช ก็พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้พระโมคคัลลานะกัลป์คืนร่างเป็นพระเหมือนเดิม แต่ด้วยนิสัยของผู้รู้ว่า นันโทปะนันทะนาคราช เป็นพญานาคที่ไม่ยอมสยบยอมพ่ายแพ้ใครโดยง่าย จึงได้แปลงร่างให้เล็กแล้วเข้าไปในรูหู จนนันโทปะนันทะนาคราช ทนไม่ไหวจึงหนีไป พระโมคคัลลานะ จึงแปลงร่างเป็นพญาครุฑไล่ติดตามไปอีกอย่างกระชั้นชิด เมื่อนันโทปะนันทะนาคราชหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น จึงแปลงร่างเป็นชายหนุ่มและยอมแพ้แก่พระโมคคัลลานะ จนในที่สุดก็ต้องยอมให้พระพุทธเจ้าพร้อมพระอรหันต์ผ่านไปสู่เทวโลกแต่โดยดี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)

วัดหนองโว้ง(พระอารามหลวง)
ตำบลเมืองบางยม อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

พระวิสัน (พธบ./รปม)

รูปแบบ การวิจัย โดย ผศ.(พิเศษ) นภดล สุชาติ พ.บ M.P.H

อ้างอิงจาก http://www.slideshare.net/guest9e1b8/9-presentation-948269

South East Asia University

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

ตัวแบบนโยบายสาธารณะสมัยใหม่

กิจกรรมดูงานเชื่อมสายสัมพันธ์ MPA12and MPA13

Download

เสียงปลง

Nonstop - I'm The Sexy Girl - DJ Back Up